ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ
ของจังหวัดพะเยา
1. การชี้แจงทำความเข้าใจ วัตถุประสงค์
และลักษณะการดำเนินโครงการ ในระยะแรกแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
และองค์กรชุมชนยังไม่ชัดเจน เนื่องจากการพัฒนาระบวนการเป็นแนวทางใหม่สำหรับระบบราชการ
และประชาชน ทำให้ผลสะท้อนในการนำเสนอแนวคิดจากชุมชน สังเกตุได้จากการนำเสนอขอเงินเป็น
ตัวตั้งมากกว่าการพัฒนากระบวนการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
2.
การใช้ชื่อโครงการความร่วมมือไทย-สหประชาชาติ ไม่เหมาะสมในพื้นที่ปฏิบัติการ
เนื่องจากความหมายเป็นลักษณะโครงการเอกเทศมีองค์กรและงบประมาณเป็นของตนเอง
ทั้งที่สุดท้ายต้องปรับเข้าสู่ระบบงบประมาณปกติของรัฐบาล ควรปรับใช้ว่า
โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน หรือโครงการชุมชนเข้มแข็ง
3. ความรู้
ความเข้าใจ ในสาระสำคัญและแนวทางเกี่ยวกับแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับที่ 8 ยังจำกัดในวงแคบสำหรับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในทุกระดับ
โดยเฉพาะองค์กร หลักเช่น กพจ. อพอ. ยังไม่ได้รับการส่งเสริมบทบาทหน้าที่สนับสนุนแนวทางการพัฒนาตาม
แผนฯดังกล่าวอย่างจริงจัง และห่างไกลสำหรับชุมชน เนื่องจากเป็นการปรับรื้อระบบการ
พัฒนาที่ดำเนินการอยู่เดิม ทำให้การปรับแนวปฏิบัติในการจัดทำแผนเชิงบูรณาการสนับสนุน
แนวทางแผนฯ ดังกล่าวไม่เกิดผลอย่างจริงจัง ควรเร่งรัดให้มีกระบวนการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรภาครัฐทุกระดับที่เกี่ยวข้องทั้ง
ในภูมิภาค และท้องถิ่นให้เกิดความเข้าใจและความตระหนักในการแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม
โดยความมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายและยึดคนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา
4. กระบวนการจัดทำแผนงาน/โครงการขององค์กรในแต่ละระดับทั้งภูมิภาคและท้องถิ่น
ไม่สอดคล้องกับระบบ กนภ. ทำให้การสนับสนุนระบบงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆในระบบ
กนภ.ไม่สามารถประสานได้อย่างเป็นระบบ เช่น แผนพัฒนาจังหวัดฯ สำนักงานจังหวัดเป็นหน่วยดำเนินการ
แผนพัฒนาอำเภอและแผนพัฒนาตำบล ที่ทำการปกครองจังหวัดเป็นหน่วยดำเนินการและจัดทำคนละวาระไม่สอดคล้องกัน
ควรปรับระบบแผนทุกระดับให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อการประสานและบูรณาการ
แผนงาน/โครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การสนับสนุนและจัดตั้งกองทุนชุมชน
โดยวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้การบริหารจัดการโดยองค์กรชุมชน
แต่หากขาดความเข้าใจแล้วจะเกิดปัญหาก่อให้เกิดวงจร หรือแหล่งเงินกู้ใหม่แก่ชุมชน
อันเป็นการก่อวงจรหนี้ให้กับคนในชุมชนและเกิดความขัดแย้งในระหว่างผู้นำชุมชนหากเกิดการจัดการที่ไม่เป็นธรรม
6. จากบทเรียนที่ผ่านมา
การกระจายความมีส่วนร่วมในชุมชนเองยังไม่เกิดอย่างทั่วถึง ทั้งการร่วมคิด
ร่วมก่อตั้ง ร่วมรับประโยชน์และร่วมกันแก้ไขปัญหา ยังพบเป็นการกระจัดกระจาย
โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสไม่มีโอกาสร่วมกระบวนการโดยตรง และมักถูกเบียดออกจากกลุ่มในทุกกิจกรรม
7. การดำเนินการพัฒนาตามแนวทางแผนฯ
8 โดยหน่วยงานภาครัฐไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากแผนการพัฒนาคนภาครัฐในกระบวนทัศน์การทำงานเชิงบุรณาการถูกละเลย
ทำให้ชุมชนขาดความรู้ความเข้าใจ ทำให้การดำเนินการพัฒนาตามโครงการต่างๆไม่เกิดประสิทธิภาพและไม่เกิดความคุ้มทุน
ซึ่งไม่อาจเรียกได้ว่า "พัฒนา" น่าจะเรียกว่าเป็นแผนการใช้เงินมากกว่า
8. ขาดความต่อเนื่องในการดำเนินกระบวนการ
เนื่องจากการปรับเปลี่ยน ย้ายข้าราชการภาครัฐบ่อย ทำให้การปฏิบัติงานขาดความต่อเนื่อง
และการพัฒนากระบวนการเป็นเรื่องที่ผู้บริหารรุ่นเก่าไม่สันทัด จึงขาดการสนใจสนับสนุน
9. โครงการตามนโยบายต่างๆ
เช่น โครงการพัฒนากระบวนการประชาคม โครงการเสริมสร่างความเข้มแข็งของชุมชน
โครงการเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบเฉพาะหน่วย ต่างคนต่างทำ
และไม่มีหน่วยงานใดที่พยามนำความเข้าใจว่าโครงการเหล่านั้นคือส่วนผสมของความยั่งยืนในการพัฒนาทั้งสิ้น
และส่วนผสมดังกล่าวจะต้องดำเนินการไปด้วยกัน และสอดคล้องสนับสนุนกันอย่างเป็นระบบและกลมกลืน
จะขาดในส่วนหนึ่งส่วนใดมิได้ ซึ่งในระดับชุมชนเกิดความสับสน ไม่สามารถเชื่อมโยงหาความสัมพันธ์ของกิจกรรม
โครงการต่าง ๆ ที่ภาครัฐได้ดำเนินการในพื้นที่ให้นำไปสู่จุดร่วมกันอย่างชัดเจนได้